ไพ่เป็นเกมที่นิยมเล่นกันทั่วโลกแต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะมาเป็นไพ่ป็อก 52 ใบที่ใช้เล่นกันในปัจจุบันนั้นมีประวัติการเดินทางที่ยาวนานหลายพันปี มีความเป็นมาอย่างไร เรามาหาคำตอบกัน
คำว่า ไพ่ (Card) มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Carte
มีรากศัพท์จากภาษาละตินว่า Charta แปลว่า
ใบปาปีรุส ต่อมาเป็นคำว่า Charter หรือ กฎบัตร
ส่วนคำว่า ไพ่ มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว อ่านว่าไป๊
ภาษาจีนกวางตุ้งอ่านว่า ผ่าย คนไทยมาเรียกว่าไพ่ ในสมัยรัชกาลที่ 2 พ.ศ. 2357 แต่ไพ่ในสมัยนั้นไม่เหมือนไพ่ป๊อกในปัจจุบัน
ไพ่เป็นเครื่องเล่นการพนันทำด้วยกระดาษแข็งหรือวัตถุอื่น เช่น พลาสติก หรืองาช้าง
มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือกลม ไพ่มีหลายรูปแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของกิจกรรมการเล่น
เช่น ไพ่ผ่อง ไพ่ตอง ไพ่ป๊อก ไพ่นกกระจอก
นอกจากนี้
ไพ่ยังใช้เป็นเครื่องมือสำหรับพยากรณ์โชคชะตา เล่นกล
หรือเล่นเกมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน
ไพ่พิมพ์ลายฉลุของจีนอายุราวในปี 1870
ไพ่ถือกำเนิดขึ้นมาหลายพันปีแล้ว ไม่มีใครรู้อย่างแน่นอนว่า ไพ่นั้นถูกประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด จีนเป็นชาติแรกที่คิดค้นไพ่กระดาษขึ้นซึ่งมีใช้ใน ค.ศ. 9 สมัยราชวงศ์ถัง ขณะที่บันทึกของบัณฑิต โอหยางซิว(ค.ศ. 1007-1072)ยืนยันว่ามีการผลิตไพ่และเล่นไพ่กันในสมัยนั้น จากนั้นไพ่กระจายจากจีนเข้าสู่ตะวันตกไม่มาทางอาหรับก็มาทางพ่อค้า ชื่อมาร์โค โปโล ซึ่งเดินทางไปมาในสมัยราชวงศ์มองโกล ต่อมาใน ค.ศ. 14 - 15 ไพ่ก็เข้ามาในทวีปยุโรป ในประเทศ อียิปต์ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน สวิตเซอร์แลนด์ โดยมีหลักฐานไพ่ที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ที่เยอรมนีและสเปนในปีค.ศ.1377 สมัยนั้นไพ่ยังจัดว่าเป็นของจับต้องได้ยากสำหรับคนทั่วไป และมีเล่นกันในวงเจ้าขุนมูลนาย ชนชั้นนำผู้มีอันจะกินเท่านั้นเนื่องจากกรรมวิธีในการทำค่อนข้างละเอียด ต้องแกะสลักไม้พิมพ์ลายแล้วทาสีลงไป ถือว่าเป็นงานฝีมือล้วน ๆ ทำให้ไพ่มีราคาสูงมาก การเล่นไพ่เป็นที่แพร่หลายและส่งผลในวงกว้างจนกระทั่งกษัตริย์และศาสนจักรในยุโรปต้องออกคำสั่งห้ามเล่นไพ่เพราะเกรงประชาชนจะติดการพนัน
ส่วนต้นแบบของการออกแบบดอกบนหน้าไพ่นั้น เชื่อกันมากที่สุดว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศทางตะวันออกกลางที่แบ่งไพ่ออกเป็น 4 ดอกตามชนชั้นทั้ง 4 ประกอบด้วย เหรียญ (coins) ถ้วย (cups) ดาบ (swords) กระบอง (batons) ทำให้ประเทศต่าง ๆได้ออกแบบไพ่ให้มี 4 ดอกแตกต่างกันไปตามสังคมของประเทศนั้นให้ความสำคัญ เช่น อิตาลีออกแบบถ้วยเป็นสัญลักษณ์แทนคริสตจักร ดาบแทนกองทัพ เหรียญแทนพ่อค้า กระบองแทนชาวนา ไพ่เยอรมันใช้ระฆัง (bells) แทนชนชั้นนำ หัวใจ (hearts) แทนคริสตจักร ใบไม้ (leaves) แทนชนชั้นกลาง และลูกโอ๊ก (acrons) แทนชาวนา หลังจากนั้นก็มีการออกแบบไพ่ต่าง ๆ กัน แม้ไม่แน่ชัดว่าไพ่กำเนิดขึ้นที่ใด แต่มีหลักฐานยืนยันว่า ในปี ค.ศ. 1410 ชาวฝรั่งเศสชื่อ Jacques Gringonnerได้สร้างสรรค์ออกแบบไพ่ให้มี 52 ใบ ใน 1 สำรับ มีรูปแบบ 4 ชุดหรือดอก ชุดละ 13 ใบคือ A, 2 – 10, J, Q, K รูปกระบองเปลี่ยนเป็นดอกจิก (clubs) ซึ่งมีลักษณะคล้ายใบต้นโคลเวอร์แทนคนชั้นล่าง รูปเหรียญเปลี่ยนเป็นข้าวหลามตัด (diamonds) ซึ่งมีรูปเหมือนเพชรแทนคนที่มีฐานะดี เปลี่ยนรูปถ้วยเป็นโพแดง (hearts) คือกลุ่มนักบวช และรูปดาบแทนที่ด้วยโพดำ (spades) ซึ่งมีลักษณะคล้ายอาวุธที่นักรบใช้ในอดีต โพดำจึงใช้แทนกลุ่มชนชั้นสูงหรือพวกขุนนาง การออกแบบลวดลายครั้งนั้นทำให้ง่ายแก่การผลิตในระบบโรงงานมากขึ้น ต่อมาไพ่ของฝรั่งเศสจึงกลายเป็นที่นิยมเล่นกันมากที่สุดและแพร่หลายไปทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 1875 นักออกแบบชาวอเมริกันคำนึงถึงข้อมูลที่เป็นตัวเลข อักษร และ ดอกของไพ่ จึงใส่สัญลักษณ์ไว้ที่ขอบไพ่ นอกจากจะไม่มีปัญหา เรื่องการจัดไพ่ในแนวตั้งแล้วยังทำให้การจัดเรียงไพ่จากซ้ายไปขวา ของผู้เล่นง่ายขึ้นเพราะเห็นข้อมูลทั้งหมดของไพ่เวลาคลี่ไพ่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผู้ถือไพ่สามารถถือไพ่ ใช้เพียงมือเดียวในการจัดการไพ่ทั้งหมด ต่อมาไพ่ที่ชาวอเมริกันออกแบบนี้เป็นที่นิยมเล่นกันทั่วโลก รวมถึงไทยเราด้วยเรียกไพ่นี้ว่าไพ่ป๊อก มาจากคำว่า Poker ซึ่งเป็นเกมไพ่ที่ชาวอเมริกันนิยมเล่นกัน ก็ต้องขอบคุณคนออกแบบไพ่ที่ทำให้การเล่นไพ่มีลีลา ท่าทางการคลี่ไพ่ การลุ้นไพ่อย่างสนุกสนานกันในปัจจุบันนี้