บทที่ 13
การใช้สายลับ
ซุนวูกล่าวว่า
1. แม่ทัพต้องสร้างสรรค์ ชำนาญศึก รบอย่าให้บาดเจ็บ
ต้องอาศัยการล่วงรู้ก่อนจากการใช้สายลับ
2. ในการศึกสงครามหากตระหนี่ถี่เหนียวเงินทองไม่ซื้อตัวสายลับทำให้การข่าวไม่ดี ไม่สามารถรู้สภาพของข้าศึกจึงส่งผลให้พ่ายแพ้
3. มิควรพึ่งผีสาง เทวดา เวทมนต์ คาถา แต่พึงเอาจากข้าศึก
4. สายลับคือบุคคลจริงที่รู้สถานการณ์ของข้าศึก สายลับต้องสืบเรื่องราวของข้าศึกให้ละเอียด สายลับมี 5 ประเภท
สายลับท้องถิ่น ใช้คนของข้าศึก
สายลับภายใน ใช้ขุนนางของข้าศึก
สายลับสองหน้า ใช้สายลับของข้าศึกทำงานให้เรา
สายลับตาย ใช้สายลับเราปล่อยข่าวลวงไปแจ้งข้าศึก
สายลับเป็น ใช้สายลับเรากลับมารายงาน
5. ผู้ที่ใกล้ชิดสนิทสนมมากที่สุด
ผู้ที่ควรปูนบำเหน็จรางวัลงามที่สุดและ
ผู้ที่สงวนความลับอย่างมิดชิดที่สุดไม่มีใครเกินกว่าสายลับ
แม่ทัพต้องรู้ดี การติดสินบนสายลับจึงต้องให้ถึงขนาด
6. ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยแล้วสายลับจักมีประโยชน์ในทุกสถานการณ์
7. ไม่ฉลาด ไม่ยุติธรรม ไม่ละเอียด
ไม่อาจใช้สายลับ ทำการใหญ่ให้สำเร็จได้
8. ไม่มีสงครามใดที่จะไม่ใช้สายลับ หากว่าสายลับยังไม่ถูกสั่งให้ทำงานแต่มีการรั่วไหลของข้อมูลต้องจัดการทั้งสายลับและผู้รู้ความลับนั้น
การสังเกต
ในบทสุดท้ายนี้ ซุนวูเน้นความสำคัญของการใช้สายลับสืบสภาพข้าศึก ในการเล่นดัมมี่สายลับคือการหาข้อมูลการเล่นของขาอื่นเพื่ออ่านสถานการณ์ไพ่บนมือเขา ทำอย่างไรจึงรู้เขา วิธีการเดาไม่ใช่กลยุทธ์การเล่นที่ดีตลอดเพราะอาจจะเดาผิดเดาถูกได้ดังนั้นจึงต้องใช้การสังเกตรายละเอียดทุกความเคลื่อนไหวของเขาทั้งการจั่ว การจัดเรียงไพ่ การตี การเก็บ และการพูดจา จึงจะสามารถรู้ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่แน่นอนแต่ก็ยังพอเป็นข้อมูลการตัดสินใจให้คุณได้บ้าง คุณต้องหมั่นฝึกการสังเกตและติดตามการเล่นของเขาอยู่ตลอดเวลาจึงจะสำเร็จ
ซุนวูล่าวว่า ผู้เล่นที่ฉลาดต้องสร้างสรรค์จินตนาการไพ่ว่าจะเล่นอย่างไรให้ชนะแต้ม สิ่งสำคัญคือการรู้สถานการณ์ไพ่ในมือของขาอื่นด้วยการสังเกตซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเกิดความได้เปรียบเพราะมีข้อมูลไพ่มากกว่าคนอื่น การสังเกตต้องไม่ทำให้ผู้ที่ถูกสังเกตรู้ตัว เขาอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการการเล่น ทำให้ข้อมูลไพ่ ไม่ตรงกับที่คาดการณ์ไว้และอาจนำไปสู่การตีไพ่ที่ผิดพลาดได้
ซุนวูแบ่งการสังเกตออกเป็น
5 ข้อคือ
1. การสังเกตการจั่วไพ่
คุณสังเกตว่าเขาจั่วแล้วตีทันทีหรือจั่วเข้าไปเสียบเข้าคู่หรือเข้าชุด
การจั่วแล้วตีทิ้งแสดงว่าไพ่ตัวนั้นไม่เข้ากับชุดใด คุณจำไพ่ตัวนี้ไว้ โอกาสที่ไพ่ใบนี้จะกลับไปแล้วเข้าคู่มีน้อยเพราะไม่มีไพ่ในมือรองรับแต่ถ้าเป็นการจั่วเสียบแสดงว่ามีคู่
คุณต้องจับตาดูให้ดีว่าเขาทิ้งไพ่ตัวไหนลงมา
2. การสังเกตการจัดไพ่ คุณสังเกตการจัดเรียงไพ่หลังจบเกมเพื่อดูว่าเขาจัดเรียงอย่างไร
เช่น เรียงจากตัวเลขมากไปหาน้อย เรียงจากน้อยไปหามาก หรือแบบผสมไม่มีรูปแบบชัดเจน
การสังเกตนี้ต้องดูหลาย ๆ ครั้งว่าเขาเรียงเหมือนกันแบบนี้ทุกครั้งหรือไม่
ถ้าใช่คุณสามารถคาดการณ์ไพ่บนมือเขาจากไพ่ที่ตีมาได้
3. การสังเกตการตีไพ่
คุณสังเกตการตีไพ่ว่าไพ่ที่ตีเป็นไพ่จั่วหรือไพ่บนมือ
ถ้าเป็นไพ่บนมือเป็นไปได้ว่าแยกคู่มาหรือมีตัวใกล้เคียง
ไพ่ที่ตีไม่สามารถบอกได้ชัดว่ามีคู่หรือไม่
มันอาจจะเป็นไพ่ที่ไม่เข้าพวกก็ได้ต้องลองดูจากไพ่ตัวข้างเคียงที่ถือ คุณสามารถตีตามได้แต่ต้องทำให้เร็ว
ตีช้าจะเสี่ยงอันตราย
4. การสังเกตการเก็บไพ่ คุณสังเกตการเก็บไพ่ของขาล่างให้ดีเพราะมีความชัดเจนกว่าไพ่ที่ตีลงมา ถ้าเขาเก็บแล้วไม่ออกมาเลยแสดงว่าไพ่เข้าชุดหรือเข้าคู่คอยโง่คุณ อย่าตีตามตัวใกล้เคียงไพ่ที่เก็บอาจเสี่ยงตีโง่ได้ ต้องระวังให้ดี คุณต้องจำไพ่ขาล่างเก็บไปให้ได้ทุกตัว แต่ถ้าจะให้รู้ไพ่มากขึ้นต้องจำทุกขา
5. การสังเกตการลงไพ่ คุณสังเกตการลงไพ่ขาล่างว่ามีความผิดปกติหรือไม่
คุณอ่านเกมดูว่าเขาลงมาเพื่อจุดประสงค์อะไร เขาหลอกเอาโง่คุณหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงไพ่ดัมมี่ตัวกันเพื่อเอาโง่ไพ่ตัวกันเพิ่มอีกตัว
การลงไพ่แบบนี้ถ้าไพ่ในกองจั่วยังเหลือถึงขาล่างคุณต้องคิดว่าทำไมเขาไม่เสียดายตัวกัน
การสังเกตด้วยสายตาอาจจะไม่เพียงพอต้องตีไพ่เพื่อช่วยในการสังเกตให้ชัดขึ้นเช่นการโยนหินถามทาง การตีไพ่เพื่อตรวจสอบดูว่าเขาเก็บตัวกันไว้เข้าคู่หรือไม่หากเขาไม่เอาตัวกันมาเกิดก็อาจเป็นไปได้ตามที่คาดการณ์ไว้
ซุนวูเสนอแนะอีกว่าคุณต้องมีไหวพริบ
สติปัญญา เอาใจใส่สังเกตรายละเอียดเล็กน้อยในทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของขาอื่นตามที่เห็นจริงแล้วจะได้ประโยชน์ในทุกสถานการณ์และระวังไม่ให้ขาอื่นสังเกตไพ่คุณได้หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ทำเป็นสลับซับซ้อนเปลี่ยนมือสับหลอกไว้ให้เขามึนงง
จับทางไม่ถูก จนเลิกสังเกตไปเอง ทักษะการสังเกตจึงเป็นทักษะพื้นฐานการเล่นที่สำคัญที่คุณจำเป็นต้องฝึกให้เป็นนิสัยอยู่เสมอ