ย้อนรอยมังกร
ย้อนกลับมาโจมตีอย่างไม่คาดคิด
ในสถานการณ์ทั่วไป กลยุทธ์ย้อนรอยมังกรนำแนวคิดของสำนวน “ที่อันตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุด”
มาใช้หมายความว่าสถานที่เป็นอันตราย
คนเราจะไม่ค่อยคิดถึงและไม่กล้าเข้าไปหรือถ้าไม่มีความจำเป็น
เราก็จะไม่เข้าไปในสถานที่นั้นทำให้สถานที่นั้นเหมาะแก่การปฏิบัติงาน เช่น
คนร้ายกระทำผิดแล้วย้อนกลับเข้าไปในสถานที่เดิมเพื่อลวงไม่ให้คนอื่นสงสัย
กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราจะต้องคิดว่าสถานที่นั้นปลอดภัยจริงหรือไม่เพราะอาจจะทำให้เราเกิดความประมาทไม่ระมัดระวังตัวได้
หากมีใครย้อนรอยใช้แผนซ้อนแผนกลับมาโจมตีภายหลัง
ในสถานการณ์ดัมมี่
กลยุทธ์นี้ถือเป็นสุดยอดการหลอกเอาโง่ไพ่ที่เคยตี
ขาบนคิดไม่ถึงว่าจะตีโง่ไพ่ตัวที่ขาล่างตีทิ้งไป
กลยุทธ์นี้อาศัยจังหวะที่คุณตีไพ่ทิ้งไปแล้วแต่ภายหลังกลับจั่วไพ่หน้าเดิมกลับมารอโง่ไว้ได้ ตัวอย่าง คุณตี 5 ไป แล้วต่อมาคุณจั่ว 5
เข้ามาอีกและเหตุการณ์บังคับให้คุณจั่ว 5 ได้อีก 1 ใบ จึงจำเป็นต้องรอโง่ 5
เมื่อขาบนเห็นว่าคุณตีไพ่ 5 ไปแล้วจึงไม่น่าจะรอโง่ 5 อีก แต่เขาอ่านพลาดจึงตีโง่
5 คุณแบบไม่คาดคิด หรือจะเป็นการรอไพ่ใบเดียว
หน้าเดียวแคบ ๆ ที่คุณเคยตีไปแล้วก็ได้กลยุทธ์นี้แม้เกิดขึ้นได้ยากแต่ได้ผลดีจริง
กลยุทธ์ย้อนรอยมังกรนี้เกิดขึ้นได้หลายสถานการณ์
เช่นคุณมีความจำเป็นต้องตีไพ่ชุดออกเพราะจั่วตัวกันแต่ภายหลังตัวกันนั้นกลายเป็นดัมมี่
คุณจึงกลับมารอโง่ไพ่ชุดเดิม ขาบนจำได้ว่าเป็นไพ่ที่คุณตีลงมาเองเขาจึงตีโง่ หรือคุณอาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นเองได้ในกรณีที่ไพ่คุณน็อกแต่ยังไม่น็อก
คุณฉีกไพ่ชุดออกไปให้ขาบนเกิด
แล้วตีไพ่ใบที่คุณทิ้งไปคืนกลับมาโง่คุณอีกครั้ง
ไพ่ใบที่ทิ้งไปต้องไม่มีผลกระทบต่อไพ่ชุดในมือเช่น ไพ่ดัมมี่ต่อไพ่ชุดนั้น
ล่อเสือออกจากถ้ำ
หลอกล่อให้ออกมาจากพื้นที่ได้เปรียบ
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์นี้ใช้หลอกล่อขาบนให้ตีไพ่ตัวใกล้เคียงตามหลังหรือตีไล่ไพ่คุณในอีกหน้าไพ่หนึ่งทำให้พลาดพลั้งมาตีโง่คุณ
ตามหลักการไพ่หน้าใหม่ ๆ บนมือ
ขาบนมักจะไม่ตีลงมาเสี่ยงอยู่แล้ว เช่น คุณรอตอง 10 ขาบนมีไพ่ 10
อยู่บนมือแน่นอนว่าเขาไม่ทิ้งมา คุณแกล้งทิ้ง J
ลงไปล่อเพื่อให้ขาบนคิดว่าคุณรอไพ่ 10 –J – Q – K ซึ่งพลาด
คุณทิ้ง J เพื่อล่อเอา 10 ดังนั้นขาบนจึงทิ้ง 10
ลงมาตีโง่คุณหน้าตอง หรือคุณจะหลอกเอาโง่หน้าเรียงโดยตีหน้าตองออก เช่นตีไพ่ 10
ออก เพื่อเอาโง่ 10 อีกหน้าหนึ่งแทน
เทคนิค
กลยุทธ์นี้ยากตรงการล่อไพ่ตัวโง่ออกมาเพราะทุกคนล้วนเป็นผู้เล่นระดับเซียนทั้งนั้นย่อมอ่านไพ่บนมือจากตัวข้างเคียง
คุณต้องใช้จุดอ่อนข้อนี้สร้างสถานการณ์ลวงให้เขาเข้าใจผิดและสามารถล่อให้ตีไพ่ตัวที่คุณต้องการออกมาได้ แผนนี้ใช้ได้ดีสำหรับพวกชอบตีไล่ไพ่ขาล่างเขาจึงพลาดง่าย กลยุทธ์ล่อเสือออกมาจากถ้ำนี้ ต่างฝ่ายก็ต่างล่อเหมือนกัน ในการที่คุณคิดจะล่อขาบน เช่น ตี ไพ่ 10 เพื่อ
เอา 10 อีก สี หนึ่ง ขาล่างก็พยายามจะล่อคุณด้วยการ เอา 10 ด้วย ขึ้นอยู่ที่จังหวะใครล่อได้ตามแผนที่วางไว้ก่อนคนนั้นย่อมมีชัยชนะ
ขึ้นเหนือล่องใต้
สร้างความเข้าใจผิดแล้วโจมตี
ในสถานการณ์ทั่วไป เมื่อสร้างสถานการณ์ลวงทำให้ข้าศึกเกิดความเข้าใจผิดสับสน สูญเสียการควบคุมและตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องเป้าหมายหรือทิศทางที่เราจะจู่โจมตี ในขณะเดียวกันก็เปิดจุดอ่อนไว้ ทำให้เราสามารถโจมตีจุดอ่อนนั่นได้โดยง่าย กลยุทธ์นี้หากแปลตรง ๆ ก็คือ พูดว่าจะตีทางทิศเหนือแต่กลับจู่โจมทางทิศใต้ ทำให้ข้าศึกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องจริงจึงขาดความระมัดระวังและการป้องกันที่ดี ขึ้นเหนือเป็นกลลวงแต่ล่องใต้เป็นเรื่องจริง กลยุทธ์นี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับความแนบเนียน ความรอบคอบในการวางแผนให้ดี การทำให้คู่ต่อสู้หลงเชื่ออย่างสนิทใจแต่เรากลับทำอีกอย่างหนึ่งรวมถึงการหยั่งเชิงคู่ต่อสู้ให้ถูกต้องด้วย
ในสถานการณ์ดัมมี่ ขึ้นเหนือล่องใต้จะใช้ในสถานการณ์ที่หลอกล่อให้ขาบนเข้าใจผิด คุณจะเอาโง่ สเปโตแต่ต้องตีตัวกันสเปโตทิ้งเพื่อหลอกขาบนว่าไม่เอาสเปโตเช่น คุณถือไพ่ 2 ขาว คู่หนึ่งไว้รอโง่ 2 สเปโตแต่สถานการณ์บังคับให้คุณต้องตีไพ่
3 ดอกจิกออกเพื่อหลอกว่าคุณไม่ได้คอยโง่ 2 สเปโตเมื่อขาบนเข้าใจผิดคิดว่าคุณไม่ได้รอสเปโตจริง จึงทิ้งสเปโตลงมาโง่คุณแบบคาดไม่ถึง
สิ่งที่ต้องระวังคือถ้าขาบนอ่านเกมออกอาจจะไม่ตีโง่สเปโตหรืออาจมีคนเกิดสเปโตตัดหน้าคุณได้
กลยุทธ์นี้จะใช้ได้ผลเมื่อขาบนถือไพ่สเปโตไว้
หากสเปโตอยู่ในกองจะไม่สามารถตีตัวกันสเปโตได้เลย เพราะผิดหลักการที่ว่าจะเอาสเปโต แต่กลับตีปี้สเปโตซึ่งมันไม่สมเหตุผลตีไพ่เช่นนั้นไม่ได้อยู่แล้ว การใช้กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับจังหวะของไพ่ การตีตัวกันสเปโตออกเพื่อหลอกว่าไม่เอาโง่สเปโตนั้นมีความเสี่ยงอยู่ที่ขาล่าง
อาจเก็บตัวกันนั้นเข้าคู่ด้วยถ้าจังหวะดวงใครดีก็จั่วสเปโตได้ เขาอาจจะซ้อนแผนคุณหลอกเอาโง่คุณด้วยการอมสเปโตไว้รอตัวกัน
บางจังหวะตีตัวกันสเปโตไปไม่มีใครเก็บ ผลจึงกลับกลายเป็นการกันไม่ให้ขาอื่นทิ้งสเปโตลงมาจึงเท่ากับว่าเป็นการกันตัวเอง
กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับดวงและจังหวะดี
ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
ทำให้ข้าศึกประมาท
ในสถานการณ์ทั่วไป กลยุทธ์นี้เปรียบเสมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ รสหวานแต่อาจถึงตายหากได้ลิ้มลอง กลยุทธ์นี้เป็นการใช้ท่าทีอันเป็นไมตรีจิต บรรยากาศดูเป็นมิตรภาพ อบอุ่นจริงใจทำให้ข้าศึกเชื่ออย่างสนิทใจ คิดว่าไม่มีอันตรายเกิดขึ้นจึงขาดความระมัดระวังและเป็นจุดอ่อนให้คุณโจมตีได้ง่าย การดำเนินการตามกลยุทธ์นี้จะต้องรักษาอาการยิ้มแย้มให้ความสนิทสนมกับฝ่ายตรงข้ามต้องทำให้ดูแนบเนียนจึงจะได้ผลดีในทางกลับกันหากมีผู้ใช้กลยุทธ์นี้ยิ้มแย้มกับคุณ คุณก็ต้องอ่านให้ออกว่าการยิ้มของเขานั้นแฝงไว้ด้วยเลศนัยอะไร เหมือนกับการคิดว่ายิ้มอย่างมีเลศนัยจากนั้นเตรียมพร้อมที่จะรับมือให้ทันท่วงที คุณต้องระมัดระวังให้ดี อย่าหลงกล
กลยุทธ์นี้รอคอยจังหวะเวลาเอาโง่และจะต้องทำอย่างแนบเนียนไม่มีพลาดทำให้คาดเดายากและไม่ให้เขารู้ตัว
คุณต้องพยายามแต่งไพ่ให้คอยโง่โดยเร็ว และไม่ลงไพ่ชุด
ถึงแม้ว่าไพ่ชุดนั้นไม่มีดัมมี่ต่อแล้วก็ตาม การถือไพ่ที่ดีควรเป็น 5 ใบ 8
ใบ 10 ใบ หรือมากกว่าจึงจะสามารถหลอกคู่ต่อสู้ได้ดี จังหวะนี้คุณเล่นด้วยความนิ่งเงียบไม่ให้ขาบนรู้สึกสักพักหนึ่งคุณเปลี่ยนแผนใช้การพูดหลอกล่อให้หลงใหลเคลิบเคลิ้มเพื่อให้ขาบนลองเสี่ยงตีเพื่อวัดดวง
หลังจากนั้นก็ทำนิ่งเงียบอีกและและคุยอีกสลับกันไปมาจนกว่าจะได้โง่
ลอกคราบ
หลอกลวงให้หลงผิดคิดว่ายังคงอยู่
ในสถานการณ์ดัมมี่
กลยุทธ์นี้เป็นการสร้างสถานการณ์ลวงในการลงไพ่ เพื่อสร้างโอกาสรอโง่หรือต้องการสเปโตเช่น คุณถือ 10 โพแดง กับ 10 ข้าวหลามตัดเพื่อรอโง่
10 ซึ่งมี 10 ดอกจิกหน้าเดียวที่คุณมีโอกาสรอได้เพราะ 10 โพดำเป็นตัวกันคงจะไม่มีใครตีมาค้ำไว้ สมมุติว่าคุณถือ J โพดำเป็นดัมมี่ตอง คุณใช้แผนลอกคราบลงฝาก J โพดำ โดยที่ไม่รอจั่วตัวกัน 10 โพดำหรือ K โพดำ เมื่อขาอื่นเห็นว่า
J โพดำถูกลงฝากเป็นดัมมี่แล้ว จึงตี 10 โพดำได้
คุณก็จะได้ตัวโง่ 10 โพดำเพิ่มอีกหนึ่งตัว
ถือว่าเป็นแผนหลอกขาบนตีโง่ได้อย่างสวยงาม กลยุทธ์นี้ถ้าลงดัมมี่ในขณะที่ไพ่ยังถึง
เซียนด้วยกันน่าจะอ่านเกมออก แต่ก็ต้องลองดู
กลยุทธ์นี้ต้องการให้เรารักษาหน้าไพ่และตัวใกล้เคียงตัวกันสเปโตไว้แล้วรอคอยจังหวะด้วยการเอาโง่ตัวกันโดยไม่ทันตั้งตัว
สิ่งสำคัญอย่าให้ขาบนสงสัยได้จึงต้องทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง แนบเนียน กลยุทธ์นี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายสถานการณ์
เช่น คุณอาจจะไม่ต้องลงหลอกแต่ใช้วิธีการเก็บไพ่ลงชุดตัวกันให้เห็นว่าออกไปแล้วก็ได้
ยกตัวอย่าง คุณต้องการ 2 ดอกจิก แต่มีตัวกันหัว 3 ดอกจิก ค้ำอยู่
คุณต้องหาทางเกิดลง 4 ดอกจิกเพื่อให้ขาอมปล่อย 2 ดอกจิกมาได้หรือการสร้างโอกาสคอยโง่ด้วยการลงไพ่ดัมมี่คนละสีกับไพ่ที่เกิดเมื่อเห็นว่าขาบนกลัวตีโง่สีสว่างคุณก็ใช้กลยุทธ์ลอกคราบนี้ได้เช่นกัน
นกต่อ
ล่อให้มาติดกับดัก
ในสถานการณ์ทั่วไป กลยุทธ์นกต่อมาจากการดักจับนกที่เรียกว่า ต่อนก ในการดักจับนกต้องมีนกที่ใช้ไปล่อซึ่งเรียกว่า นกต่อ กลยุทธ์นกต่อจึงหมายถึง การใช้คนสนิทหรือคนรู้จักติดต่อ หรือชักจูงผู้อื่นให้ติดกับดักหลงเชื่อเพื่อทำบางอย่างในทางที่ไม่ดี เช่นล้วงความลับ หลอกขายบริการ ผู้หญิงที่ทำหน้าที่ล่อลวงให้คนมาติดกับดักเรียกว่านางนกต่อ ยกตัวอย่างเช่น นางนกต่อล่อลวงสาวชาวเหนือไปขายบริการหรือใช้มารยาผู้หญิงล่อเหยื่อมาแล้วขู่เรียกค่าไถ่ ตามปกติแล้วการล่อลวงทำได้ยากแต่ถ้าใช้นางนกต่อจะทำให้เราตายใจ ยิ่งใช้กับหนุ่ม ๆ แก่ ๆ แล้วละก็หลงตกเป็นเหยื่อแทบทุกราย เช่นตามสถานเริงรมย์มักจะมีผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวน เข้ามาตีสนิทแล้วหลอกรูดทรัพย์ นกต่อที่เป็นผู้ชายก็มีด้วย
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์นี้คือการตีไพ่ปี้เหนือตัวโง่ให้ขาบนเก็บตัวโง่เราขึ้นไป เวลาคุณคอยโง่แล้วมีตัวโง่อยู่ในกอง รอให้ขาบนเกิดแล้วตีตัวโง่นั้นลงมา แต่เขาไม่เกิดกลับจั่วแทน คุณใช้กลยุทธ์นกต่อคือตีไพ่ตัวที่เหนือไพ่ที่คุณคอยโง่ เพื่อล่อให้เขาเก็บตัวโง่เราขึ้นไป เช่น คุณรอโง่ Q สเปโต คุณก็ตีไพ่เหนือ Q สเปโต แล้วให้ขาบนเก็บไพ่ปี้นั้นแล้วตีไพ่สเปโตลงมาโง่ กลยุทธ์นี้บางทีคุณไม่ได้ลงมือเองเพราะอาจมีขาอื่นทำให้แทนก็ได้ ถ้าขาบนเก็บตัวโง่ขึ้นไปคุณก็มีความหวังได้โง่แน่ ขอให้ซุ่มรอคอยให้นานไว้
เทคนิค
กลยุทธ์นี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส ถ้าเขาเก็บไพ่ตัวโง่คุณไปแล้วไม่ตีลงมา มีแนวโน้มว่าไพ่ใบนั้นคงจะเข้าคู่หรือเข้าชุด สถานการณ์แบบนี้อาจจะต้องเปลี่ยนหน้าไพ่คอยใหม่ การฉีกไพ่ที่รอออกไปให้ขาบนเกิดเพื่อเป็นดัมมี่ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้คุณน็อกเร็วขึ้น ในทางกลับกันถ้าคุณเจอกลยุทธ์นี้ต้องพิจารณาให้ดีอย่าเพลิดเพลินกับการหลอกล่อให้เกิด ระวังขาอื่นตีปี้มาให้เกิดเป็นนกต่อแทน ทางแก้ไขคุณต้องระวังอย่าตีไปเด็ดขาดแม้ว่าจะเป็นไพ่ในกองแต่หน้าไพ่หายทั้งเรียงและตอง อันตราย
ซุนวู