รู้เขา รู้เรา
รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
รู้ความสามารถของตนเองและผู้อื่น
ในสถานการณ์ทั่วไป ซุนวูกล่าวว่า แม่ทัพต้องรู้จุดแข็ง จุดอ่อน
ทั้งของตัวเองและศัตรู กลยุทธ์นี้สิ่งสำคัญคือต้องรู้เราก่อน ต้องรู้จักตัวเองก่อน
เพราะศัตรูที่แท้จริงของเรานั้นคือตัวเราเอง
เช่น ความกลัว ความโลภ
ความเศร้า ความใจร้อน ความใจอ่อน ความเย่อหยิ่ง อารมณ์ของตนเอง
ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว สิ่งที่ต้องรู้เรา คือ รู้ว่า
เราอยู่ในสถานการณ์ใด ทำอะไรได้แค่ไหน
อย่างไร จังหวะเวลาเหมาะสมหรือไม่ มีข้อจำกัดอะไร
มีจุดแข็งอะไรจึงจะแข่งกับเขาได้ มีจุดอ่อนอะไรที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ต่อมาจึงรู้เขา
ศึกษาเขาว่าเป็นอย่างไร มีจุดอ่อน จุดแข็งอะไร
แล้ววางแผนโจมตีจุดอ่อนของเขา
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เน้นถึงการอ่านสถานการณ์ไพ่ในมือขณะเล่นว่าเป็นอย่างไร จังหวะใดควรเกิด จังหวะใดควรจั่ว จังหวะใดควรหลบหลีก จังหวะใดควรป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โอกาสน็อกหรือนับแต้มแข่งกับขาอื่นได้มากน้อยเท่าไร ความสามารถในการจำไพ่ดีหรือไม่ สมาธิดีหรือไม่ ใจของเรากล้าหาญหรือไม่ หรือเราเย่อหยิ่งในบางสถานการณ์จนทำให้ไพ่เสียหาย เหล่านี้คือสถานการณ์รู้เรา สถานการณ์รู้เขาเน้นการอ่านไพ่ขาอื่นว่าเขาเก็บไพ่อะไรขึ้นไป และทิ้งไพ่อะไรลงมา เขาน่าจะรออะไรคาดสถานการณ์และวิเคราะห์ไพ่ในมือเขาอย่างแม่นยำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราเล่นได้ดีและนำไปสู่ชัยชนะในที่สุด
เทคนิค
กลยุทธ์นี้คุณจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้หรือไม่นั้นอยู่ที่ดวงเป็นผู้กำหนดชะตาไพ่แต่ก่อนที่ดวงจะมากำหนดนั้นคุณต้องเตรียมความพร้อมของไพ่คุณเสียก่อนถ้าดวงคุณดีคุณก็ชนะ
แต่ถ้าดวงคุณไม่ดีจั่วไม่เข้า
คุณก็เสี่ยงต่อการแพ้
นอกเหนือจากดวงแล้วการอ่านสถานการณ์ไพ่ทั้งเราและเขาก็มีความสำคัญเช่นกันใครที่มีเทคนิคชั้นเชิงดีอาศัยจังหวะเหมาะสมเข้ากระทำ ย่อมมีโอกาสชนะมากกว่าคนที่ไม่รู้สถานการณ์ไพ่ หากคุณและคู่ต่อสู้มีฝีมือการเล่นพอกัน คือ
ลงไพ่นับแต้มแข่งกัน
ผู้ชนะเป็นของคนที่สามารถอ่านสถานการณ์ไพ่ได้ขาดกว่ากัน แต่อย่าลืมว่าสถานการณ์ไพ่ไม่มีอะไรแน่นอนแม้ว่าคุณจะอ่านไพ่
อ่านใจเขาออกแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะชนะได้ตลอด เล่นร้อยครั้งจึงไม่ชนะร้อยครั้ง
ไม่มีใครแพ้ชนะตลอดกาล
ตีวัวกระทบคราด
ทำให้เขาขัดเคืองในทางอ้อม
ในสถานการณ์ทั่วไป กลยุทธ์ตีวัวกระทบคราดเป็นศิลปะการด่าคนอย่างหนึ่งเป็นการด่าที่ไม่ใช่การด่าโดยตรงแต่เป็นการกระทบหรือประชดประชันจะด้วยวาจาหรือการกระทำก็ตามซึ่งจะมีผลทำให้ฝ่ายที่ถูกด่ารู้สึกขัดเคืองเช่นโกรธคนหนึ่งแต่ทำอะไรเขาไม่ได้ก็ไปหาทางทำกับคนอื่น หรือบางทีทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ กลยุทธ์นี้มีความหมายอีกทางคือ การทำให้อีกฝ่ายที่อ่อนแอกว่ายอมสยบอยู่ใต้อำนาจ อาจจะใช้วิธีการตักเตือนให้เกรงกลัวและเพื่อให้เป็นไปตามแผนการที่วางไว้อาจจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยความรุนแรงเสมอไป
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์ตีวัวกระทบคราดคือการตีตัวกันสเปโตไว้หัวหรือรองหัวในรอบแรก ๆ ของการเล่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเล่นของขาอื่นให้ยากขึ้น หากมีใครจั่วสเปโตขึ้นมาจะต้องอมไว้ก่อน เพราะถ้าตีปี้ก็จะเสียค่าตีปี้ให้กับผู้เก็บได้ นอกจากนี้การตีตัวกันยังทำให้ขาอื่นคิดไว้ก่อนว่าไพ่ของผู้ตีสวย ไพ่ดีแน่ ๆ จึงทำให้เขาเล่นระมัดระวังมากขึ้น บางขาอาจรีบเกิดหนีขามืดเพราะไม่อยากชนมืดด้วย ในบางสถานการณ์การตีตัวกันไว้หัวก็ไม่ได้หมายความว่าไพ่ของผู้ตีจะสวยมากมายอะไร เขาอาจไม่อยากฉีกคู่หรือแม้แต่ไพ่ ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยแต่อยากสร้างสถานการณ์ตีแกล้งคนหรือข่มขู่เท่านั้นเอง
เทคนิค
การตีตัวกันสเปโตออกไว้หัวย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือการลดตัวกันสเปโตบนมือออกไปเพื่อช่วยให้คุณเล่นง่ายขึ้นเป็นการกันสเปโตไม่ให้ออกมาก่อนส่วนข้อเสียคือ คุณต้องระวังขาอมสเปโตด้วยถ้าเขาเก็บไพ่ตัวกันได้ คุณก็ต้องเสียคนเดียวและอย่าลืมว่าคุณเองก็มีโอกาสจั่วสเปโตขึ้นมาอมไว้เช่นกันจึงควรดูสถานการณ์ไพ่ด้วยว่าไพ่คุณสวยถึงขนาดต้องตีตัวกันหรือไม่ มีความจำเป็นหรือไม่ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรตีเพราะมีขาอมรออยู่
ปิดฟ้าข้ามทะเล
เห็นบ่อยจึงไม่สงสัย คิดว่าเตรียมพร้อมจึงประมาท
ในสถานการณ์ทั่วไป ตามธรรมชาติของคนนั้นสิ่งที่ตนคุ้นเคยอยู่แล้วหรือสิ่งที่ตนพบเห็นบ่อย มักจะไม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษหรือไม่ระมัดระวังสงสัยจึงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาหรือการคิดว่าเราเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้วจึงตั้งตนอยู่ในความประมาท คิดว่าเก่งแล้ว ดีแล้วจึงไม่สนใจเสียงคัดค้านจากผู้อื่น และนี่เองกลับเป็นจุดอ่อนของเราโดยที่ไม่รู้ตัว
ปิดฟ้าข้ามทะเลเป็นกลยุทธ์หนึ่งของการแสดงเท็จ ปิดบังความจริงเพื่อหลอกคู่ต่อสู้ ปิดฟ้าเป็นวิธีการแสร้งทำภาพลวงในการต่อสู้ ข้ามทะเลเป็นเป้าหมาย ในสถานการณ์ที่สายตาทุกคู่คอยจับจ้องอยู่ที่ตัวเราหูทุกคู่คอยฟังความเคลื่อนไหวของเรา หากเราต้องการทำบางอย่างให้สำเร็จ จะต้องปิดบังอำพรางความเคลื่อนไหว หลีกเลี่ยงการตรวจจับ ทำเรื่องลับที่สุดให้บรรลุเป้าหมายด้วยวิธีการเปิดเผยภาพลวงอย่างแนบเนียน
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลอาศัยการสังเกตการตีไพ่ปี้ของขาอื่น ในจังหวะที่คุณมีไพ่ตัวกันเมื่อไพ่ในกองทิ้งมีจำนวนมากและมีการตีไพ่ปี้หัวกันเกิดขึ้นคุณคาดว่าจะมีผู้เก็บไพ่แน่ คุณตีตัวกันเพื่อต้องการให้ขาอื่นเก็บสกัดไพ่ตัวกันนั้นออก เป็นการฝากตัวกันไปด้วย และขจัดไพ่ในมือให้น้อยลงหรือจะใช้วิธีการตีไพ่ปี้หัวอีกหน้าหนึ่งก็ได้เป็นทางเลือกแต่ต้องเสี่ยงวัดดูว่าเขาจะเกิดไพ่ของใคร ถ้าไม่มีใครตีปี้หัวลงมาคุณอาจจะตีปี้หัวเองก็ได้ คุณทำท่าทางปิดบังซ่อนเร้นพิรุธด้วยการทำนิ่งเฉยหรือแกล้งพูดเบี่ยงเบนความสนใจจนการเล่นผ่านไปครบรอบถ้ามีคนทักก็บอกว่าตีผิดมองไม่เห็น แสร้งทำภาพ แสดงอาการให้เหมือนจริงแต่ความจริงแล้วคุณตั้งใจตีไพ่ใบนั้น
เทคนิค
กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลนี้ เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญใช้ได้ในทุกสถานการณ์ แต่ว่าจะสำเร็จหรือไม่นั้นอยู่ที่การวิเคราะห์สถานการณ์ที่แม่นยำ การวางแผนแนบเนียนไม่มีพิรุธ และความกล้าของคุณ การใช้กลยุทธ์นี้ควรพลิกแพลงสร้างความสับสนให้คู่ต่อสู้ตัดสินใจผิดพลาด เขาอาจคิดว่าคุณต้องการฝากดัมมี่จึงสกัดไว้หรือต้องการให้เก็บตัวกันไว้เล่นเองแต่จริงแล้วคุณมีชุดสเปโตอยู่แล้วหรือมีคู่ตัวกันสเปโตดักหน้าหรือกรณีที่คุณตีปี้หัวตัวกันสเปโตก็อาจทำให้ขาบนคิดว่าคุณต้องการจะออกสเปโตหรือต้องการสเปโตกันแน่ การตีไพ่เต็มชุดก็เช่นเดียวกันถ้าไพ่ในกองทิ้งยาวอาจทำให้ขาอื่นไม่ทันมองเห็น คุณก็สามารถรอดจากการเสียค่าตีเต็ม คุณควรศึกษากลยุทธ์นี้ให้ละเอียดรอบคอบ ควรสังเกตความเคลื่อนไหวหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นในการเล่น หากมีผู้ใช้กลยุทธ์คุณอาจจะร้องออกมาให้ขาอื่นรู้ว่าขาบนตีปี้เพื่อทำลายแผนการและควรจะฝึกการใช้กลยุทธ์ที่เป็นคู่ตรงข้ามกัน เช่น ช้า – เร็ว, นิ่ง – เคลื่อน, จริง – เท็จ, กล้า – กลัว ตามสถานการณ์
แตกสามัคคี
ยุยงให้แตกแยกภายใน
ในสถานการณ์ทั่งไป กลยุทธ์แตกสามัคคีนิยมใช้กับศัตรูที่มีกำลังกล้าแข็งโดยทำให้ศัตรูเกิดความแตกแยกภายในเกิดความระแวงสงสัยซึ่งกันและกันแล้วเราจะสามารถทำลายข้าศึกได้ง่าย กลยุทธ์นี้ใช้หลักการแบ่งแยกแล้วทำลายอาศัยความขัดแย้งของฝ่ายตรงข้ามเป็นพื้นฐานในการดำเนินกลยุทธ์ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งด้านความคิด อุดมการณ์ ความขัดแย้งนี้อาจมีอยู่เดิมแล้วหรือไม่ก็ฝ่ายที่ดำเนินกลยุทธ์จงใจทำให้เกิดขึ้นภายหลัง ความขัดแย้งนี้จะถูกทำให้ขยายกว้างขึ้นจนนำไปสู่ความร้าวฉานถึงขั้นแตกแยก ในที่สุดกลยุทธ์นี้สามารถทำได้หลายวิธี เช่นการสร้างความเข้าใจผิด การยุแหย่ การปล่อยข่าวลือ
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์แตกสามัคคีจะใช้เมื่อเห็นว่าไพ่ในกองทิ้งนั้นเริ่มยาวไม่มีใครเก็บคุณคิดว่าไพ่ขาอื่นอาจจะสวยแต่ไพ่คุณไม่สวยจึงต้องการเก็บไพ่แต่ไม่ต้องการไพ่ที่ไม่เข้าพวกเพราะไม่เกิดประโยชน์ คุณจึงตีไพ่ปี้ไพ่ใบที่อยู่ต่ำกว่าไพ่ใบที่คุณต้องการให้ขาอื่นเกิดเป็นการตัดกองไพ่ให้สั้นลงหรือคุณจะตีไพ่ปี้ไพ่ใบบนสุดให้ขาล่างเก็บเพื่อเป็นการล้มกองไพ่ทิ้งใหม่เพื่อคุณจะได้ตีอย่างสะดวกก็ได้ กลยุทธ์นี้ยังใช้ในการทำลายแผนการเก็บไพ่ของขาอื่นและเปิดทางให้เขาตีตัวที่คุณต้องการออกมาได้
การจะใช้กลยุทธ์แตกสามัคคีได้ต้องมีช่องทางการตีปี้และการเก็บไพ่ที่ชัดเจนแน่นอนต้องสำรวจดูอย่างแหลมคม การตีปี้จะต้องไม่ทำให้ไพ่คุณเสียหายและไม่ใช่การตีปี้เพื่อลงทุน อย่าเข้าใจวัตถุประสงค์ของกลยุทธ์นี้ผิดไป ระวังการตีไพ่ปี้อย่าลืมว่าคุณอาจตกเป็นฝ่ายที่ไม่ได้เกิดไพ่ได้ถ้ามีขาอื่นตีไพ่ปี้เหนือไพ่ใบที่คุณต้องการเกิดเพราะในการเล่นนั้นต่างฝ่ายต่างก็ใช้กลยุทธ์เพื่อชิงความได้เปรียบและผลประโยชน์เป็นของตน สถานการณ์เช่นนี้อาจเป็นอันตรายเพราะคุณไม่ได้เกิดไพ่และต้องเสี่ยงตีไพ่อีกคุณอาจพลาดท่าตีโง่ได้
หยั่งดูท่าทีของฝ่ายตรงข้าม
ในสถานการณ์ทั่วไป กลยุทธ์โยนหินถามทางมีที่มาจากพวกโจรลักเล็กขโมยน้อย
เวลาจะปีนรั้วโดดกำแพงเข้าบ้านใครก็จะลองโยนหินเข้าไปก้อนหนึ่งก่อนแล้วฟังดูว่ามีเสียงคนเคลื่อนไหวหรือเสียงสุนัขเห่าตอบกลับมาหรือไม่จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจว่าจะลงมือดำเนินการต่อได้หรือไม่
ต่อมาก็นำมาใช้หมายถึง ก่อนที่จะลงมือทำอะไร ควรหยั่งเชิงดูปฏิกิริยาของผู้อื่นว่ามีการตอบสนองอย่างไร
แล้วนำผลที่ได้มาเป็นตัวประกอบในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น การโยนหินถามทางไม่ควรทำหลายครั้งควรหาวิธีการที่ดีและเหมาะสมที่สุดในการปฏิบัติงานให้สำเร็จ
ในสถานการณ์ดัมมี่ กลยุทธ์นี้เป็นการหยั่งเชิงดูท่าทีของขาล่าง เมื่อตีไพ่ตัวแปลกใหม่ออกไปว่าขาล่างมีอาการอย่างไรหรือจะเป็นการเช็คดูหน้าไพ่ว่าขาล่างมีไพ่ตัวที่เราคาดการณ์ไว้หรือไม่ อาจจะใช้วิธีการตีไพ่ปี้ให้เอาตัวกันลงมาเกิด การตีไพ่ใหม่ออกไปหยั่งเชิงควรตีไม่เกิน 2 รอบ แล้วให้ถือไว้ ห้ามตีอีกจนกว่าคุณจะแน่ใจว่าขาล่างไม่ต้องการไพ่ตัวนี้แล้ว ไพ่ใหม่ต้องระวังให้ดีบางสถานการณ์ตีไปครั้งที่ 2 ก็โดนโง่แล้ว การหยั่งเชิงนอกจากจะตีไพ่ไปถามดูแล้ว คุณต้องสังเกตไพ่ตัวแปลกใหม่ที่ขาบนตีลงมาด้วย เพราะไพ่ตัวนี้อาจเป็นไพ่ข้าม หรือหากคุณเก็บมันไว้บนมือ ไพ่ข้ามนี้ก็อาจเป็นหอกที่ขาบนส่งมาให้ก็ได้ เผลออาจตีโง่ได้ ควรพิจารณาให้ดี
เทคนิค
กลยุทธ์โยนหินถามทางเป็นหลักการลองใจคนว่ามีความคิดต่อสิ่งที่เราทำหรือถามอย่างไร การโยนหินถามทางบางครั้งคุณไม่ได้โยนเองแต่อาจจะเป็นขาตรงข้ามโยนหินหรือตีตัวใหม่มาให้เพราะเขาต้องการหลีกโง่เหมือนกัน หากคุณเก็บขึ้นไปอาจเป็นหอกโง่ได้ สิ่งสำคัญในการเล่นคือ คุณต้องสังเกตสัญญาณที่แสดงออกจากน้ำเสียง แววตา ท่าทาง และอื่นๆ ว่ามีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไรกับไพ่ที่ตีลงไปมีการหยุดชะงัก คิดนานหรือออกอาการกับการทำหรือตั้งคำถามแล้วจับสัญญาณนั้นทันที ผู้เล่นที่ชำนาญอาจต้องสังเกตหลายอย่างพร้อมกันบางครั้งต้องใส่ปฏิกิริยาบางอย่างเข้าไปด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เช่น การถามนำ การพูดคาดการณ์ การยั่วยุ
ปั้นน้ำเป็นตัว
หลอกลวงให้น่าเชื่อถือ
ในสถานการณ์ทั่วไป ปั้นน้ำเป็นตัวเป็นการปิดบังหลอกลวงข้าศึก แต่มิใช่ลวงจนถึงที่สุดจะต้องเปลี่ยนภาพลวงเป็นจริงอย่างแนบเนียน
ทำให้เกิดความหลงผิดจากเท็จเป็นจริงหรือจากจริงเป็นเท็จทำให้สับสนแล้วก็รุกโจมตี
การปั้นน้ำเป็นตัวเป็นการทำเพื่อหวังผลบางอย่าง ทำโดยมีหลักการและวิธีการที่แน่นอนและที่สำคัญที่สุดทำแล้วต้องไม่เป็นผลร้ายกับตัวเอง กลยุทธ์นี้ใช้เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเองและเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม
วิธีการที่นิยมใช้กันมากได้แก่
การปล่อยข่าวลือซึ่งอาจจะมีความจริงอยู่บ้างแต่แต่งเติมสีสันเข้าไปให้ดูเกินความจริง
หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาแล้วใส่สถานการณ์ให้ดูสมจริง
ในสถานการณ์ดัมมี่ ซุนวูกล่าวว่าให้ฝึกการหลอกแล้วจะประสบความสำเร็จ
กลยุทธ์ปั้นน้ำเป็นตัวคือการใช้จิตวิทยาการพูดหลอกล่อ ยั่วเย้า ทำท่าทางสร้างสถานการณ์ให้ดูสมจริง ให้คู่ต่อสู้คาดการณ์เอาเองว่าจะเชื่อถือได้หรือไม่
แล้วหลงกลตามแผนเรา โดยที่การกระทำนั้นไม่ผิดกฎกติกา มารยาทในการเล่นแต่อย่างใด เช่น
การบอกขาบนว่าตีมาให้เกิดตัวหนึ่งจะทำให้ขาบนคิดว่าเราขอแค่เกิดหรือเราจะเอาโง่เขากันแน่
หรืออย่างกรณีที่เราทำท่าทางคว่ำไพ่ระหว่างรอขาบนตีก็อาจทำให้ขาบนคิดว่าเราจะเกิดจริงหรือไม่
เทคนิค
กลยุทธ์นี้คือ ความจริงไม่มีแต่แสร้งทำให้เป็นมี ให้คู่ต่อสู้ยากที่จะคาดเดาได้ คอยโง่หรือไม่คอย จริงจังหรือล้อเล่น อ่อนหรือแข็ง สลับกันไปมา จากนั้นเปลี่ยนสภาพให้เป็นจริงทันทีจึงจะชนะได้โดยที่คู่ต่อสู้ไม่คาดคิด การหลอกล่อที่ใช้มุขเดิมอยู่ตลอดฝ่ายตรงข้ามย่อมรู้ทันตรวจสอบได้ หรือสิ่งที่เป็นจริงตลอดไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยย่อมไม่มีผลต่อการพัฒนาฝีมือการเล่นดังนั้นหากจะให้ประสบผลสำเร็จเมื่อเราและคู่ต่อสู้เผชิญหน้ากัน ตรง ๆ ต้องสร้างภาพลวงให้เกิดความสับสนและชิงความได้เปรียบทำให้คู่ต่อสู้มองผิดพลาดแล้วโจมตี คู่ต่อสู้ที่หวาดหวั่นคิดอะไรง่าย ๆ ก็จะหลงกลแน่นอน การทำให้ขาบนคิดว่าคุณไม่น่าจะรอโง่ไพ่ใบนี้ได้ แต่พอถึงเวลาขาบนตีโง่ไพ่ใบนี้จริง ๆถือว่าเป็นการใช้ภาพลวงหลอกล่อได้สุดยอดมาก
หลักประกันแห่งชัยชนะล้วนอยู่ที่การวางแผน
ซุนวู